สวนกระแสหุ้นโลก แบบไม่แคร์ขีปนาวุธ "คิม จ็อง-อึน" ต้องยกให้ SET index (อังคาร 29 ส.ค.) ที่นักลงทุนยังงงกันอยู่ เมื่อเห็นวอลุ่มซื้อหนาแน่นหนุนมูลค่าซื้อขายทั้งวันทะยานแตะ 9.5 หมื่นล้าน ต่างชาติพลิกกลับมาซื้อสุทธิ 4.8 พันล้านบาท อุ้มดัชนี SET ขึ้นไปเทรดเหนือ 1,600 จุดแบบสบายๆ จนปิดตลาดที่ 1,614.14 จุด บวก 28.35 จุด หรือบวก 1.79%
"แรงซื้อกระจายเข้ามาเกือบทุกกลุ่มอุตสาหกรรม นำโดยหุ้นบิ๊กแคบอย่างพลังงาน สื่อสาร และธนาคาร"
บล.ซีแอลเอสเอ (ประเทศไทย) มองเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้าหุ้นไทยหนาแน่นภายในวันเดียว (อังคาร 29 ส.ค.) และเป็นนักลงทุนต่างชาติที่ปรับพอร์ตนำเงินมาลงทุนใน SET เร็วกว่าที่คาด
“ด้วยปริมาณซื้อขายสูงถึงเกือบ 1 แสนล้านบาทภายในวันเดียว หนุนให้ SET index วิ่งผ่าน 1,600 จุด จึงเชื่อว่าจากนี้ไปดัชนีหุ้นไทยน่าจะกลับมายืนเหนือ 1,600 จุดได้แข็งแกร่ง เพิ่มเติมด้วยปัจจัยค่าเงินบาทที่ส่งสัญญาณแข็งค่า ทำให้นักลงทุนต่างชาติ ได้กำไร 2 ต่อ ทั้งจากค่าเงินและผลตอบแทนจากการลงทุนในหลักทรัพย์"
พร้อมกับยังคาดหวังว่าในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ เซนติเมนต์ตลาดโดยรวมจะอยู่ในทิศทางบวก ผลักดันให้ดัชนีฯ จะเป็นลักษณะแกว่งตัวขาขึ้น โดยปัจจุบันเขายังคงเป้าดัชนีสิ้นปีนี้ไว้ที่ 1,670 จุด แต่ถ้าหากฟันด์โฟลว์ไหลเข้ามาสูงก็อาจจะเห็นการปรับประมาณขึ้นได้
บลจ.กรุงไทย บอกถึงภาพรวม SET ที่ปรับตัวขึ้นโดดเด่น ประเมินว่านักลงทุนต่างชาติคลายกังวลปัญหาการเมืองภายในประเทศแล้ว ประกอบกับความเชื่อมั่นที่มากขึ้นถึงโอกาสปรับเพิ่มประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจ หลังจากตัวเลขอัตราเศรษฐกิจไทย GDP ในไตรมาส 2 ออกมาเติบโตได้ดี
ส่วนปัจจัยภายนอก ประเมินว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ย ตามความเสี่ยงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่นโยบายของ "โดนัลด์ ทรัมป์" ไม่ได้เป็นไปตามคาดการณ์ไว้ จึงทำให้เกิดแรงเทขายสินทรัพย์สกุลเงินดอลลาร์ ส่งผลให้กระแสเงินไหลเข้าตลาดหุ้นเกิดใหม่ (Emerging Markets) ซึ่งรวมถึงตลาดหุ้นไทยด้วย และยิ่งค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง จึงทำให้ต่างชาติได้กำไร 2 ต่อ ซึ่งอาจจะรวมถึงเม็ดเงินที่เข้าไปลงทุนในตราสารหนี้หลักหลายแสนล้านบาท โยกย้ายมาลงทุนใน SET ที่ปัจจุบันมีสัดส่วนถือครองหุ้นต่ำ
โบรกเกอร์ค่ายธนชาต ประเมินว่า SET ได้ทะลุ 1,600 จุด ด้วยปริมาณซื้อขายหนาแน่นในหุ้นบิ๊กแคบ หลังการเมืองมีเสถียรภาพ ทำให้นักลงทุนกลับมาให้ความสนใจกับแนวโน้มการเติบโตกำไรบริษัทจดทะเบียนเร่งตัวขึ้นปีหน้า ขณะที่ Valuation ตลาดที่น่าสนใจ และการลงทุนภาครัฐฯ ที่เร่งตัวขึ้นในครึ่งปีหลัง ทำให้มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 1,620 จุด และเป้าหมายระยะกลางที่ 1,650 จุด
ที่มา : http://www.moneychannel.co.th/news_detail/18532/