#ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน

เจาะโมเดลธุรกิจ D เติบโตบนโมเดลศูนย์ทันตกรรมตกแต่งพรีเมี่ยม

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
485 views

 

เจาะโมเดลธุรกิจ D เติบโตบนโมเดลศูนย์ทันตกรรมตกแต่งพรีเมี่ยม กับ ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล และดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ในรายการ Business Model สรุปสาระสำคัญมาให้อ่านกัน

 

ลักษณะธุรกิจ


กลุ่มบริษัทประกอบธุรกิจให้บริการทางทันตกรรมแบบครบวงจร ในรูปแบบศูนย์ทันตกรรมและคลินิกทันตกรรม โดยปัจจุบันมีทั้งหมด 12 สาขา แบ่งเป็นการดำเนินการภายใต้แบรนด์ BIDC 1 สาขา, Dental Signature 3 สาขา และ Smile Signature 8 สาขา

 

บริษัทมี PE 30 เท่า ถือว่านักลงทุนคาดหวังการเติบโตอยู่พอสมควร 
(ที่มาภาพ : รายการ Business Model ช่อง Money channel)

 

ส่วนที ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล วิเคราะห์ไว้ในรายการ


- D ประกอบธุรกิจทำคลีนิคทันตกรรม 12 สาขา

- โครงสร้างรายได้จากทันตกรรมความงาม 49% จากทันตกรรมทั่วไป 26% ส่วนที่เหลือเป็นจากการทำรากฟันเทียม

- ธุรกิจอยู่ในกลุ่ม niche market
 จับลูกค้าระดับกลาง-บน

- สัดส่วนคนต่างชาติที่ 40% และคนไทย 60% 

- นี้เป็นจุดต่างระหว่าง D และ LDC ซึ่งอ่างหลังจะไม่เน้นต่างชาติ ในขณะที่ D เน้นต่างชาติมากกว่า

- บริษัทมี Gross Margin 38% ถือว่าค่อนข้างสูง และ Net Margin ที่ 10%

- ค่าเช่าคิดเป็น 13% ของรายจ่ายทั้งหมดถือว่าไม่เยอะ มีกำลังเพียงพอที่จะจ้างบุคลกรทางทันตแพทย์

- ปีที่แล้วมียอดขาย 223 ล้าน ถือว่าดีและเป็นไปตามเป้าของบริษัท

- บริษัทมี PE ที่ 36 เท่า บอกว่านักลงทุนให้ความหวังกับการเติบโตของ D สูงพอสมควร ต้องจับตาดูกันต่อไป

- ถ้าบริษัทรักษา Net margin 10% แบบนี้ไปได้ตลอดจะเป็นเรื่องดีมากและคาดหวัง PE ที่ 30 เท่าก็พอยอมรับได้ แต่เท่าที่ดูผลประกอบการไตรมาส 1 ไม่ได้เป็นแบบนั้น ยังคงต้องรอดูต่อไป

- Market Cap. ของบริษัทอยู่ที่ 1700 ล้าน 

- ROE อยู่ที่ 10% ในขณะที่ P/Bv อยู่ที่ประมาณ 4 เท่า นั้นหมายความว่านักลงทุนคาดหวัง D มากไปนิดนึง ค่อนข้างตึงไปแล้ว



- ถ้าบริษัทไม่ได้สามารถ Growth ได้ 30% นั้นหมายความว่าหุ้นแพงไป

- D เป็นทันตกรรมในรูปแบบแฟชั่น มีแบรนด์ ต่างชาติให้ความเชื่อถือ เป็นเรื่องของความสวยความงาม จริงๆมันเป็นเทรนในอนาคตด้วย

- ถ้าถามว่าตอนนี้ราคาแพงไปหรือไม่ ยังบอกไม่ได้เพราะข้อมูลที่ปรากฏยังไม่เพียงพอต่อการวิเคราะห์ แต่ ROE น้อยไปนิดนึง

  

เด็กทำฟันเยอะ สังคมไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ การที่เด็กเกิดน้อยลง

ทันตกรรมจะแย่ด้วยหรือเปล่า ตรงนี้ผมยังไม่แน่ใจ
(ที่มาภาพ : รายการ Business Model ช่อง Money channel)

 

ส่วนที ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร วิเคราะห์ไว้ในรายการ


- ธุรกิจความสวยความงาม โดยปกติเป็นธุรกิจที่ฉาบฉวย คือ จับได้เฉพาะกลุ่มวัยรุ่น วัยหนุ่มสาว

- ผมยังสงสัยว่าการทำคลีนิคฟันกับโรงพยาบาลที่มีแผนกทันตกรรม คลีนิคจะสู้ไหวไหม แตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน แต่เท่าที่ดูผมรู้สึกว่าจะไม่แตกต่างกันเท่าไร

- ผมมองว่าในระยะยาวแล้วโรงพยาบาลน่าจะมีความได้เปรียบมากกว่า คล่องตัวมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขององค์กร การควบคุมรายจ่าย อย่างโรงพยาบาล แผนกทันตกรรมเป็นแผนกหนึ่งในโรงพยาบาลทั้งหมด แต่คลีนิคนี้คือคุณไปเช่าตึกมาเพื่อเปิดคลีนิคฟันโดยเฉพาะ จะควบคุมรายจ่ายได้ยากกว่า

- คลีนิคทำฟัน ผมมองว่าได้เปรียบในเรื่องใกล้บ้านและความสะดวกสบาย

- เท่าที่ผมทราบเคยเห็นคลีนิคฟันแห่งหนึ่ง เขาบอกว่าเขาจะเติบโตเร็วมากเลย เร่งขยายสาขา พอขยายสาขาเสร็จไม่สามารถหาลูกค้าได้พลิกกลับมาเป็นขาดทุนเลย ไม่ได้เติบโตอย่างที่หวังไว้

- ผมมองว่าธุรกิจความสวยความงามฟัน มันเป็นธุรกิจที่ไม่ได้ดีมาก แต่ก็ไม่ได้เลวร้าย คือ ลูกค้าเขาก็มีอยู่เท่านั้นละ จะเพิ่มฐานลูกค้า มันก็ไม่รู้จะมีการตลาดแบบไหน ที่จะให้คนไปทำฟัน

- คลีนิคทำฟัน เป็นธุรกิจที่เติบโตมากไม่ได้ เปิดสาขาใหม่จะขาดทุนไปหลายปี เพราะหาลูกค้าไม่ได้ ลูกค้าไม่รู้จัก ต้องทดขานทุนไปเลย 2-3 ปี รายได้ยังไม่มา แต่รายจ่ายนี้มาแล้วค่าเช่า ค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าจ้างบุคลากร ที่สำคัญคือเปิดไปแล้วยังไม่รู้ว่าจะประสบความสำเร็จหรือเปล่า

- ผมมองว่าทำฟัน ไม่ใช่เรื่องของแฟชั่น มันเป็นเรื่องของการดูแลรักษาฟันนิดๆหน่อยๆ บางคนทำไปแล้ว 5 ปี 10 ปี ยังไม่ได้กลับมาใช้บริการเลย เพราะทำไปแล้วจบแล้ว ไม่กลับมาทำอีก อย่างเช่นดัดฟัน ดัดครั้งเดียว คงไม่มีใครกลับมาดัดซ้ำอะไรแบบนั้น ดังนั้นเรื่องที่บอกว่าตีตลาดต่างชาติมากกว่าผมว่ามันบอกอะไรไม่ได้

- เด็กทำฟันเยอะ เราต้องไม่ลืมว่าสังคมไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ การที่เด็กเกิดน้อยลง อุตสาหกรรมทำฟันจะแย่ด้วยหรือเปล่า ตรงนี้ผมยังไม่แน่ใจ

- ผมคิดว่า D ต้องมีโมเดลธุรกิจใหม่ๆที่คืนทุนเร็ว เปิดแล้วลูกค้าใช้บริการได้เลย

- สรุปแล้ว ราคาหุ้นเป็นตัวบอกทุกสิ่ง จะขาดทุน จะกำไรก็ดูกันตรงนี้ละ ซื้อแพงไปเราก็ขาดทุน ซื้อราคาถูกๆแต่รอหน่อยก็อาจจะกำไรได้ 

- Net Margin 10% ไม่ได้สูงมาก ผมว่ากลางๆไม่ได้โดดเด่น

--------------------------------------------------

ขอบคุณแหล่งข้อมูล : รายการ Business Model รายการ Money Channel : เจาะโมเดลธุรกิจ D เติบโตบนโมเดลศูนย์ทันตกรรมตกแต่งพรีเมี่ยม


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง