งานแรกเป็นงานที่ต้องปรับตัวเยอะ วัยรุ่นหลายคนเจอ Culture Shock จากงานประจำ จากที่เคยมีอิสระในสมัยเรียน เลิกเรียน 4 โมงเย็นได้นั่งชิลๆ แถวสยาม ได้ไปแฮงเอาต์ Friday Night กับเพื่อน พอทำงานประจำเพื่อนๆ ก็เริ่มหายตัวไป ต่างคนต่างมีธุระ นานๆ ถึงนัดเจอได้สักที ชีวิตที่เคยดีในสมัยนั้น มีพ่อแม่ส่งตังค์ให้ใช้กลับพลิกผัน ทำงานแรกได้เงินเดือนน้อย แถมยังต้องจ่ายค่านู่นนี่ เหมือนหนูถีบจักร ถ้าไม่ทำงานก็อยู่ไม่ได้ ชีวิตแบบนี้น่าอึดอัดหลายๆ คนจึงมีคำถามว่าทำอย่างไรถึงจะมีเงินล้านแรกได้ เอาแบบเร็วที่สุดเลย รอไม่เป็น 

อย่างแรกคือต้องวางแผนก่อนว่าเก็บเงินเท่าไรถึงจะมีล้านแรก ต้องประหยัดแค่ไหน หรือมีรายได้จากช่องทางไหนบ้าง มีน้องคนหนึ่งเป็นวิศวกรจบใหม่ เอาเวลานอกเวลางานไปขับแท็กซี่ ถ้าเป็นมุมมองคนรุ่นเก่าจะบอกว่า เรียนมาสูงขนาดนี้ทำไมไปขับแท็กซี่ไม่เอาเวลามาพัฒนาวิชาชีพ เพราะว่า เป้าหมายของคนสมัยนี้อยู่ที่อยากมีเงินให้มาก ซึ่งก็ไม่ผิดที่จะคิดแบบนี้ เพราะลองดูราคาสินค้าแต่ละอย่างที่เพิ่มขึ้นอย่างสูงมากๆ ไม่ใช่เรื่องผิดที่จะคิดอยากรวยเพราะถ้าเราทำงานโดยไม่สนใจเรื่องเงิน ไม่คิดหารายได้เพิ่ม ไม่เก็บเงินเลย วันหนึ่งเราอาจลำบาก เราอาจไม่มีปัญญาซื้อบ้าน และมีชีวิตที่มั่นคงทางการเงินได้เลย

นอกจากนี้ ยังมีส่วนที่มองว่าเป็น ข้อได้เปรียบของคนรุ่นใหม่คือการปรับตัวต่อสถานการณ์โลกได้เร็ว อย่างช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ใครจับกระแสออนไลน์ได้ก็คงจะมีหน้าร้านในอินเทอร์เน็ต มีแฟนเพจ หรือมีบล็อก ซึ่งการแสดงตัวตนในโลกออนไลน์ทำให้สร้างรายได้ได้มากกว่าเงินเดือนด้วยซ้ำและเป็นตัวช่วยในการทำให้ตัวเราโดดเด่นกว่าคนอื่นๆ บางคนได้อาชีพใหม่ๆ เช่น นักรีวิวภาพยนตร์ นักวาดการ์ตูน หรือบล็อกเกอร์ที่มาเป็นนักเขียนก็มีเยอะ และการขายผลงานที่มี Copy Right นำไปสร้างผลิตภัณฑ์ได้หลากหลายโดยอินเทอร์เน็ตช่วยทำให้ผลงานเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายทำให้คนกลุ่มนี้ออกมาเป็นผู้ประกอบการอิสระได้ง่าย

นอกจากการมองหาช่องทางและโอกาสทางการงานแล้ว ยังต้องเริ่มมองหาการลงทุนที่เพิ่มกระแสเงินสด เช่น กองทุนจ่ายปันผล กองทุนอสังหาริมทรัพย์แบบ Freehold ส่วนเงินสดแทนที่จะเก็บไว้ในบัญชีออมทรัพย์ให้นำไปลงทุนในสินทรัพย์ Money Market (ตราสารหนี้ที่มีอายุสั้น) เราจะสามารถเพิ่มมูลค่าให้เงินออมได้ อย่างน้อยเราเพิ่มผลตอบแทนจากดอกเบี้ยออมทรัพย์ 0.5% เป็นประมาณ 2% ยิ่งไปกว่านั้นการลงทุนในสินทรัพย์ Money Market มีสภาพคล่องสูง ขายออกวันนี้ได้รับเงินสดวันพรุ่งนี้ เท่านี้ก็เป็นการเพิ่มมูลค่าให้เงินออมแบบมีความเสี่ยงต่ำ

เรื่องสุดท้ายคือการวางแผนเกษียณ และการนำเงินมาลงทุนระยะยาวอย่างน้อย 10% ของเงินออม โดยนำเงินมาลงทุนในหุ้นระยะยาวอย่างน้อย 10 ปีขึ้นไป แต่อย่าลืมศึกษาหุ้นตัวนั้นอย่างถ่องแท้และพิจารณาเรื่องการเปลี่ยนเทรนด์ของบริษัทเพื่อที่จะทราบว่าเราต้องขายหุ้นนั้นออกในเวลาไหนโดยถ้าเราลงทุนตั้งแต่เริ่มทำงานใหม่ๆ เช่น อายุ 24-25 ในช่วงเวลา 5 ปีในตลาดหุ้นเราอาจมีช่วงที่จับจังหวะการลงทุนได้ถูกต้องและเพิ่มมูลค่าให้พอร์ตเราได้เร็วทำให้เป้าหมายเงินล้านเราเป็นจริงได้ง่ายขึ้น ถ้าใครมี 3 ข้อข้างบนครบนี่ คุณจะรวยเร็วจนเพื่อนอิจฉาอย่างแน่นอนค่ะ