หลังจากมีข่าวใหญ่ในวงการ ปตท. ส่อเค้าแยกทางกับร้านคอนวีเนี่ยน สโตร์อันดับหนึ่งของประเทศอย่าง เซเว่นอีเลฟเว่น และ สร้างความฮือฮาให้กับสังคมเป็นอย่างมาก ทาง ปตท.ก็ออกมายืนยันข่าวนี้ด้วยตัวเองอย่างรวดเร็ว  

 

โดยเฟซบุ๊กเพจ PTT News ได้ระบุเผยแพร่ข้อความว่า..

 

"ปตท. ยืนยันยังคงร่วมธุรกิจกับเซเว่นอีเลฟเว่น หลังเป็นพันธมิตรที่ดีกันมายาวนาน"

 

นายสุชาติ ระมาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่การตลาดขายปลีก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท. ยืนยันเดินหน้าธุรกิจค้าปลีกในประเทศด้วยการจับมือกับร้านเซเว่น อีเลฟเว่น เปิดให้บริการในสถานีบริการ ปตท. ในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความสัมพันธ์อันดีกันมายาวนาน โดยปัจจุบันมีร้านเซเว่น อีเลฟเว่น เปิดให้บริการในสถานีบริการ ปตท. แล้วกว่า 1,400 แห่งทั่วประเทศ และยังคงมีแผนงานที่จะร่วมกันขยายให้มีจำนวนรวมกว่า 1,700 แห่ง ในอีก 4-5 ปีนี้

 

 

โดยในวันที่ 22 สิงหาคม ที่ผ่านมา ปตท. และ Jiffy ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันในเรื่องแผนธุรกิจในประเทศลาว เพื่อผลักดันแบรนด์คนไทยสู่เวทีอาเซียน ตั้งเป้าหมายการเปิดสาขาในลาว 97 สาขาในลาว และ 160 สาขาในอาเซียน ภายในปี 2565 ทำให้เกิดความเชื่อมโยงว่าแผนดังกล่าวจะ ขยายมาสู่แผนการตลาดในประเทศไทยด้วย

 

ปัจจุบันมีสาขาของ 7-11  ในปั๊มปตท. คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10% กว่าๆ  เมื่อเทียบกับจำนวนสาขา 7-11 ทั้งหมดราว 10,000 สาขา ถ้าหากว่าเกิดการยกเลิกสัญญาจริง น่าจะกระทบกับเป้าหมายการขยายสาขา 13,000 สาขาภายในปี 2564 รวมทั้งรายได้ในภาพรวมของซีพีออล์

 

แต่หลังจากมีข่าวแยกทางในวันนี้ทางปตท. ก็ออกมายืนยันแล้วว่ายังคงเป็นพันธมิตรที่ดีกับ 7-11 ต่อไป แถมยังมีแผนเดินหน้าขยายสาขาเพิ่ม ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า ยักษ์ใหญ่คู่นี้ จะจับมือกันเพื่อสร้างความสะดวกสบายครบวงจรภายในสถานีบริการน้ำมัน เพื่อต่อยอดรายได้ของทั้งสองแบรนด์ ในช่วงเวลาที่ค้าปลีกเองก็เผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ๆ ของเทคโนโลยี ขณะที่ทางฝั่งของปตท.รายได้จากน้ำมันก็สร้างมาร์จิ้นต่ำ จนต้องเร่งขยายรายได้จากธุรกิจ non-oil หรือข่าวที่เกิดขึ้นในวันนี้จะเป็นเพียงการโยนหินถามทาง และส่งเสียงขู่ เพื่อนำไปสู่การต่อรองบนโต๊ะเจราจาของมหาอำนาจเท่านั้นเอง

 

แต่สมมติว่า... CPALL กระทบแค่ไหนกัน หากถูกลดสาขา 7-11 ในปั๊ม PTT  ?

CPALL กระทบมากน้อยแค่ไหน ?

 

กรณีแย่สุด ฝ่ายวิจัย ASP ประเมินผลกระทบ หาก PTT นำร้านจิฟฟี่เข้ามาแทน 7-11 ในปั๊ม PTT ซึ่งจะทยอยสิ้นสุดสัญญาใน 6 ปีข้างหน้า พบว่าหากทยอยยกเลิกสัญญา จะเฉลี่ยราว 231 สาขา/ปี

ผลกระทบก็คือ จะทำให้การเพิ่มสาขาของ CPALL ลดลงเหลือปีละ 469 สาขา จากแผนการเปิดสาขาตามปกติของบริษัทอยู่ที่ราว 700 สาขา/ปี กรณีนี้หากเกิดขึ้นจริง จะกระทบกำไร CPALL ระยะยาวปีละ 3%

 

นอกจากนี้ การเข้ามาของจิฟฟี่ ยังถือว่าเป็นคู่แข่งหน้าใหม่ในธุรกิจร้านสะดวกซื้อ จากก่อนหน้าที่มีคู่แข่ง เช่น Lotus express, Family mart, Bigc Mini, Lawson 108, CJ Express รวมถึงมีร้านสะดวกซื้อในต่างจัดหวัดเป็นคู่แข่งด้วย เช่น ธนพิริยะ และซุปเปอร์ชีพ

มองว่า การแข่งขันที่เพิ่มขึ้น อาจกระทบยอดขายสาขาเดิมของ CPALL จะเห็นว่าในปี 57-59 ยอดขายสาขาเดิมโตเฉลี่ยเหลือ 0.5%/ปี จากก่อนหน้าที่เคยโตเฉลี่ย 10-20%/ปี ทำให้ CPALL หันมาเน้นประสิทธิภาพการทำกำไร โดยการขายสินค้าพรีเมี่ยม

 

ที่มา : www.brandbuffet.in.th ,PTT News, บทวิเคราะห์ Asia Plus