'เมื่อไหร่ Bitcoins จะใช้แทนเงินสดที่เราใช้ ...'

มาช่วยนั่งคิดๆ กันดู คือ อยากรู้ว่า สุดท้ายเกมนี้จะออกมาเป็นอย่างไร ? ...ปี 2010 มูลค่าของ 10,000 Bitcoins ซื้อ พิซซ่า ได้แค่ 2 ถาด ...แต่วันนี้มูลค่า 10,000 Bitcoins มีมูลค่า 40 ล้านเหรียญ ..ก็ประมาณ 1,400 ล้านบาท

(สงสัยเศรษฐีพันล้านจะล้นโลกละ ...ตลกไหม ?)

โหดไปนะ !

 

ทุกเกม มี 'เกิดขึ้น - ตั้งอยู่ - ดับไป' วิ่งเป็นรอบ ไปเรื่อยๆ ..โดยมีพื้นฐานเป็นตัวกำกับ

...พื้นฐานก็เช่น ซื้อหุ้น 10 บาท หุ้นกำไรปีละ 1 บาท ก็คือ P/E 10 เท่า ..แปลว่าพื้นฐานคือ 10 ปีคืนทุน ..เทียบปันผล เช่น สมมุติปันผลหุ้นละ 50 สตางค์ ก็เทียบเท่ากับปันผล 50% (ปันผลนี่คือ Passive Income ที่เพิ่มขึ้นตามกำไรและการเติบโตของธุรกิจ)

 

แต่ Bitcoin นี่ซิ ...หาพื้นฐานไม่ได้ !!

(นี่ไม่ได้พูดถึงเทคโนโลยี Blockchain นะ เพราะเทคโนโลยีมาแน่ ในอนาคต แต่มันจะไม่ได้มาในแบบของ Cryptocurrency ที่เก็งๆ กันอยู่

..สกุลเงิน Crypto ไหนจะมา ต้องทำให้ราคานิ่ง ไม่ใช่ทำให้ปั่นราคาได้สนุกสนาน

..คิดดูถ้าเงินบาท ทำให้ปั่นราคาขึ้นลงได้แบบบ้าๆ บอๆ คนไทยส่วนใหญ่คงไม่ถือเงินบาท ..คนอาจจะไปถือทองคำแทน

...จะบ้าเหรอ วันนี้ 10,000 บาท ซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมได้ ...พอพรุ่งนี้ 10,000 บาท ซื้อบ้านได้ 1 หลัง ...อีกอาทิตย์ต่อมา 10,000 บาท เหลือซื้อรถได้หนึ่งคัน

...ไม่!! ถ้าราคานิ่งไม่ได้ มันก็แค่ สินทรัพย์ชนิดนึงที่เอามาเก็งกำไร เหมือนครั้งนึงที่โลกเรา เคยเก็งกำไรดอกทิวลิป

(Tulip Mania ..สูงสุดของการเก็งกำไรดอกทิวลิป คือ 1 ดอก ซื้อบ้านได้ ..ตลกไหม ? นี่คือเรื่องจริงที่เคยเกิดในอดีตเมื่อหลายร้อยปีก่อน และ มันก็กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน)

 

มีเรื่องจะเล่าให้ฟัง

มีเซียนหุ้นรุ่นเก๋าในวงการ พูดกับผมว่า 'รู้ไหมทำไมหุ้นปั่นต้องเอาหุ้นที่ไม่มีพื้นฐาน หุ้นเน่าๆ มาปั่น สร้าง Story ให้ล้ำๆ นำเทรนด์ ..ทำไมเขาไม่เอาหุ้น PTT หรือ SCC หุ้นพื้นฐานมาปั่นละ ?'

1. ไม่มีกำไร ไม่มีพื้นฐาน จึงไม่มีเพดานของราคา ...จะลากไปเท่าไหร่ก็ได้ ตราบเท่าที่มีเม่าวิ่งตาม (ลากไปสัก 100 เด้ง ก็ได้นะ ซื้อซากหุ้นมา 1 สตางค์ ก็ลากไปสัก 1 บาท ..ทำไมจะลากไม่ได้ ก็หุ้นส่วนใหญ่อยู่ในมือเจ้า ลากขึ้นเท่าไหร่ก็กระเป๋าซ้าย กระเป๋าขวา) ...แต่ถ้าหุ้นตัวนั้นๆ เริ่มกำไร โชว์พื้นฐานจริงเมื่อไหร่ - วงแตก !! ตัวใครตัวมัน !!

 

2. ต้องล้ำ ต้องใหม่ คนส่วนใหญ่ ต้องไม่เข้าใจ ...ยิ่งคนไม่เข้าใจ ลากเท่าไหร่ก็ได้ (บริษัทจะไปทำ เก็บขยะ ในดาวพลูโต แล้วจะลากก้อนพลังงาน ที่ทดแทน พลังงานที่ใช้ทั้งโลกได้ 1,000 ปี สนใจล่ะซิ ...เอางี้ผมขายนอกตลาดให้คุณเลย 10 สตางค์ เอาไหม ? ..แค่ขายนอกตลาด ก็คืนทุนแล้ว เกมนี้เจ้าไม่มีความเสี่ยงเลย)

 

3. หุ้นปั่น ใช้ซากหุ้น ดังนั้นใช้เงินน้อย

..ซื้อให้เยอะข้างล่าง - ลากให้สูงที่สุด ตราบเท่าที่คนอื่นยังไม่มีของ - เรียกแขก (Public Participation) ..แบ่งขาย เอาทุนคืน (แบ่งของออกขาย ให้ราคาลงแรง) ...ปล่อยสูง เอากำไรมารับต่ำ ลากขึ้นไปอีก ...จากนั้น เรียกแขกเพิ่ม ลากให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ (Distribution Phase) ...สร้างข่าวดีสูงสุด ออกให้มากที่สุด ...แต่เหลือติดปลายนวม เอาไว้โชว์เม่า ว่า 'เราก็ติดเหมือนนายเลยนะ ไม่ได้เอาเปรียบ' (ตลก)

เป็นอย่างงี้ เป็นรอบๆ ไปเรื่อยๆ

นี่แชร์ ธรรมะ การลงทุนเลยนะเนี่ย ..555

 

เดี๋ยว ผมไม่ได้จะโจมตี Bitcoins ใครจะเล่นก็เล่นไป แต่ให้มีสติ ว่าเราอยู่ตรงไหน ของรอบก็พอ ...พอมีสติแล้วก็คิดวิธี จำกัดความเสี่ยงของตัวเองให้ดีครับ

โลกยุคนี้ท้าทายมาก เปลี่ยนแปลงมาก ...แต่มีเรื่องนึงไม่เปลี่ยน และใช้ได้ตลอด คือ ธรรมะ

เอาล่ะจบสนทนา ธรรมะ การลงทุนวันนี้ก่อนละ สวัสดีจ๊ะ !!

#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

 

>>> มือใหม่เข้าใจหุ้น by ภาววิทย์ <<<

 

วันสัมมนา : ส.-อา.ที่ 19-20 ส.ค. 60

เวลา : 09.30-16.30 น.

สถานที่ : Silom Complex ชั้น 19