แบงก์ชาติฟันธง เอ็นพีแอลถึงจุดสูงสุดไตรมาส 4 ก่อนทยอยลดลงตั้งแต่ปีหน้า เผยหากหักหนี้เสียกลุ่มเหมืองแร่ หนี้เน่าลดวูบเหลือ 2.86%
- ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ประเมินแนวโน้มเอ็นพีแอลในระยะข้างหน้าว่า ถ้าเศรษฐกิจมีอัตราการขยายตัวตามคาดไว้ที่ระดับ 3.5% เอ็นพีแอลน่าจะถึงจุดสูงสุดไตรมาส 4 ปีนี้ และจะทยอยปรับลดลง
- ไตรมาส 2 /2560 ยอดเอ็นพีแอลคงค้างของทั้งระบบจำนวน 4.16 แสนล้านบาท สัดส่วนเอ็นพีแอลต่อสินเชื่อรวมอยู่ที่ 2.95% จากไตรมาสก่อน 2.94% ซึ่งเอ็นพีแอลที่เพิ่มขึ้นมาจากสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ภาคเหมืองแร่ และบางอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์และเอ็นพีแอลสินเชื่อรถยนต์ยังปรับเพิ่ม
- ด้านผลกระทบจากนํ้าท่วม ธปท.และธนาคารพาณิชย์ พยายามช่วยเหลือกลุ่มนี้ปรับโครงสร้างหนี้โดยธปท.อนุญาตไม่ต้องจัดชั้นเอ็นพีแอลเพราะเป็นสถานการณ์ชั่วคราว
- ด้านการเติบโตของสินเชื่อยังคาดว่าจะขยายตัวในอัตรา 4-6% จากครึ่งปีที่ขยายตัว 3.3%
( NPL หมายถึง สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loan) หรือที่เรียกกันว่าหนี้เสีย หรือหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ซึ่งเกิดจากลูกหนี้เงินกู้ของสถาบันการเงินต่าง ๆ ไม่สามารถที่จะชำระดอกเบี้ยและเงินต้นให้กับสถาบันการเงินที่ปล่อยให้กู้เป็นระยะเวลาเกินกว่า 3 เดือนขึ้นไป โดยมีหลักการพิจารณาลูกหนี้ว่ามีการผิดนัดเกิน 3 เดือนหรือไม่ หากเกินจะถือว่าเป็นลูกหนี้ NPL ในทันที )
ที่มา : http://www.thansettakij.com/content/193954, อักษรย่อ.com