รวย จน เริ่มต้นที่จินตนาการ ...
มีคนจำนวนไม่น้อยเชื่อกันว่า ถ้าจะรวยได้ ต้องใช้ "เงินต่อเงิน" และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้พวกเขาไม่รวยสักที สิ่งที่คนมั่งคั่งกับคนที่ขัดสนทางการเงิน แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว ก็คือ เรื่องของ "จินตนาการ"
คนที่มั่งคั่ง มักคิดอะไรที่ดูเหมือนเพ้อฝัน ซึ่งจะว่าไปในตอนเริ่มต้น ทุกสิ่งที่เราคิดมันก็เพ้อฝันด้วยกันทั้งนั้น แต่คนมั่งคั่งมักไม่ยอมปล่อยให้ฝัน ยังคงเป็นแค่ฝัน พวกเขามุ่งมั่น พยายาม และค้นหาหนทางทำให้มันเป็นจริง ...ผิดกับคนที่ไม่ประสบความสำเร็จทางการเงินที่มักมองหน้าตักตัวเองก่อน แล้วก็มักติดอยู่กับคำพูดที่ว่า..
"ถ้าวันหนึ่งฉันมีเงิน ฉันจะ ..."
ผมแก้ปัญหาชีวิตขาดจินตนาการของลูกศิษย์ที่เรียนกับผม ด้วยการสั่งการบ้านให้ออกไปดูอพาร์ทเมนท์ อาคารพาณิชย์ หรือรีสอร์ท ที่เขาประกาศขาย จะ 10 ล้าน 20 ล้าน หรือ 30 ล้าน อย่าไปสนใจ ออกไปดูซะ ... แล้วคิดหาวิธีซื้อ ...
การไม่มีเงิน การเอาเรื่องเงินออกจากหัว ทำให้ความคิดสร้างสรรค์เกิด.. ลำดับการลงทุนที่ผิดที่ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่รวยก็คือ มองหาเงิน ก่อนหาการลงทุนดีๆ
ซึ่งในความเป็นจริง เราต้องออกหาการลงทุนที่ดีให้เจอเสียก่อน และเมื่อเจอโอกาสที่ดี สมองและความคิดที่ไม่ยอมแพ้ จะพยายามครอบครองทรัพย์สินดีดีเหล่านั้น ได้หรือไม่ได้มันอีกเรื่อง เพราะอย่างน้อยสมองก็ได้ฝึกคิดแบบที่คนรวยคิด ไม่ใช่ตีกรอบชีวิตด้วยเงินในกระเป๋า
ลูกศิษย์ทีได้ออกไปดูทรัพย์ด้วยวิธีคิดแบบที่ผมสอน Feedback กลับมาว่า รู้สึกถึงพลังบางอย่างในตัว (ซึ่งเรื่องนี้ ริวจะไม่ยุ่ง 555) โดยเฉพาะความคิดที่มองเห็น "โอกาส" ได้มากกว่าแต่ก่อน (ทั้งๆที่มันก็วนอยู่รอบตัวเรานั่นแหละ)
คิดง่ายๆ คุณไม่มีโอกาสลงทุนอะไรได้หรอก ถ้าคิดว่าต้องมีเงินก่อนถึงจะลงทุนได้ แต่ถ้าคุณออกไปเดินหาทรัพย์หรือการลงทุน ไปเจอทรัพย์ที่ปล่อยเช่าให้กระแสเงินสดเป็นบวก (ค่าเช่าเอาชนะค่าใช้จ่ายและเงินผ่อนได้) และอยากได้มันมาก สมองคุณก็จะพยายามหาทางครอบครองมัน (กู้แบงค์ไม่ได้ ก็กู้สหกรณ์ กู้ในชื่อตัวเองไม่ได้ ก็หาทางเอาจนได้) หรืออย่างน้อยหาทางทำประโยชน์จากมันให้ได้ (ซื้อลงทุนไม่ได้ ก็หาคนมาซื้อกินค่านายหน้าได้)
ใครอยากเปิดวิธีคิดแบบคนรวย จะลองเอาไปทำตามก็ไม่สงวนลิขสิทธิ์ครับ
"เงิน" มองไม่เห็นด้วยตา แต่มองเห็นได้ด้วย "ความคิด" โอกาสลงทุนดีๆ สำคัญกว่าเงินที่มีในกระเป๋าสตางค์ อยากรวย ... ต้องเริ่มรวยความคิด รวยจินตนาการกันก่อนนะครับ