“วีระพล ไชยธีรัตน์”รับผิดตาม ก.ล.ต.กล่าวโทษ ยืนยันบริษัทฯ สามารถเดินหน้าธุรกิจต่อได้
“วีรพล ไชยธีรัตน์” ยอมรับผิดไม่ระมัดระวังตาม ก.ล.ต.ลงโทษ แต่ยืนยัน “ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป” ไม่ได้รับผลกระทบ ย้ำตัดสินใจเพื่อผลประโยชน์ของบริษัทฯ และธุรกิจสามารถเดินหน้าต่อได้
นายวีระพล ไชยธีรัตน์ อดีตกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือก.ล.ต. เปิดเผยว่าหลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการ และผู้บริหารของบริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CWT รวม 6 ราย กรณีไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบและความระมัดระวัง เป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหายนั้น ตนเอง และคณะกรรมการของบริษัท ยอมรับการกล่าวโทษดังกล่าวจากก.ล.ต.
แต่อย่างไรก็ตามตนเองในฐานะกรรมการผู้จัดการ และหนึ่งในคณะกรรมการของบริษัทที่ถูกกล่าวโทษ ขอเรียนว่า หลังจากที่คณะกรรมการบริษัท อนุมัติให้บริษัทย่อยของ CWT เข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทจำกัดแห่งหนึ่งซึ่งลงทุนในโครงการรถไฟฟ้าชีวมวลกำลังผลิต 9.6 เมกะวัตต์ จากผู้ขายในมูลค่า 70 ล้านบาท โดยมีข้อตกลงในการชำระเงิน ณ วันทำสัญญา 50 ล้านบาท และเงินส่วนที่เหลืออีก 20ล้านบาท จะชำระเมื่อผู้ขายหุ้นได้ดำเนินการเพื่อให้ได้ใบอนุญาตต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง และดำเนินการจ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้าชีวมวลตามข้อตกลงและเสร็จ แต่ตนเองและคณะกรรมการในเวลานั้น
ได้ตัดสินใจให้ CWT ชำระเงินส่วนที่เหลือ 20 ล้านบาท ทั้งที่ผู้ขายยังไม่ได้ดำเนินการเรื่องต่างๆอย่างครบถ้วน เนื่องจากตนเอง และคณะกรรมการกังวลว่าผู้ขายจะไม่สามารถดำเนินการเรื่องใบอนุญาตต่างๆได้ครบถ้วน และทันตามระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อ CWT ที่อาจจะไม่สามารถดำเนินธุรกรรมใดๆต่อโครงการดังกล่าว และทำให้เสียโอกาสในการดำเนินธูรกิจของ CWT อีกด้วย
ดังนั้นตนเอง และคณะกรรมการในเวลานั้นจึงมีความจำเป็นที่จะดำเนินกี่ชำระเงินในส่วนที่เหลืออีก 20 ล้านบาท เพื่อที่ CWT จะสามารถดำเนินการเรื่องใบอนุญาตต่างๆที่เกี่ยวข้องได้เอง ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวตนเอง และคณะกรรมการในเวลานั้นขอยืนยันว่าได้ตัดสินใจอยู่บนพื้นฐานของผลประโยชน์โดยรวมของบริษัทฯ และเพื่อให้โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลดังกล่าวสามารถเดินหน้าต่อไปได้
โดยการดำเนินการดังกล่าวถึงแม้ว่าจะผิดเงื่อนไขข้อตกลง แต่ก็ดำเนินการเพื่อให้โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลดังกล่าวได้รับใบอนุญาตต่างๆที่เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วน และสามารถเดินหน้าต่อไปได้โดยในปัจจุบันภาพรวมของโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลดังกล่าว มีความคืบหน้าไปมากกว่าร้อยละ 50 และคาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างและเสร็จ และสามารถเริ่มทดลองเดินเครื่องกำลังการผลิตได้ภายในเดือนมีนาคม 2561 และจะสามารถดำเนินการจ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ หรือ COD ได้ภายในไตรมาส 2 ของปี 2561 ซึ่งเป็นไปตามกรอบแผนงานที่กำหนดไว้
ข่าวประชาสัมพันธ์ ที่มา : SET