(ขอบคุณภาพ และ ข้อมูล : กรุงเทพธุรกิจBizweek)
ลือสะพัดวงการแพทย์ “ธุรกิจโรงพยาบาล” ไฉนกิจการเล็ก “โรงพยาบาลมหาชัย” ผุดบิ๊กโปรเจค 1.5 หมื่นล้าน บนที่ดินสำนักทรัพย์สินฯ ซึ่งเช่าช่วงจากเจ้าสัว “เจริญ สิริวัฒนภักดี”
มีการคาดการณ์ว่า ธุรกิจบริการสุขภาพ หรือ Health care ในไทย มีมูลค่าตลาดรวมสูงถึง 6 แสนล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง สอดคล้องกับข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ที่ประเมินว่า รายได้จากโรงพยาบาลเอกชน ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มาจากลูกค้าชาวต่างชาติสูงถึง 1 แสนล้านบาท และหากรวมกับชาวต่างชาติที่พักและทำงานในไทยด้วยแล้วมีมูลค่าถึง 1.3 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนรายได้ราว 25% และแนวโน้มยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
กลายเป็นความ “หอมหวาน” ในการรุกสู่ธุรกิจนี้ ยิ่งไทยเดินเข้าสู่ “สังคมผู้สูงอายุ” (Aging Society) ประกอบกับนโยบายดันไทยสู่การเป็น “ศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ” หรือ Medical hub ทำใหรัฐใส่มาตรการส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจนี้
ทำให้ช่วงที่ผ่านมามีกระแสข่าวหนาหูในแวดวงการแพทย์ ถึง“หน้าใหม่”ใน ธุรกิจโรงพยาบาล กำลังจะเข้ามาชิงเค้กก้อนโต ไม่ว่าจะเป็น...
- กลุ่มตระกูลณรงค์เดช และศรีไกรวิน ที่รุกสู่ธุรกิจโรงพยาบาล ในชื่อของบริษัท เคพีเอ็น เฮลท์แคร์ จำกัด (มหาชน)
- การรุกสู่ธุรกิจนี้ของ บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง ของ“ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์”
- บริษัทโมเดิร์นฟอร์มกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่เข้าซื้อหุ้นบริษัท โมเดอร์นฟอร์ม เฮลท์แคร์ จำกัด และเข้าไปถือหุ้นในบริษัท ยูไอซีซี จำกัด เพื่อรุกธุรกิจสุขภาพ โรงพยาบาล และเวชภัณฑ์ รวมถึงเครือเจริญโภคภัณฑ์ ของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์
ที่เป็นข่าวฮือฮาสุดตอนนี้ ต้องยกให้เจ้าสัว “เจริญ สิริวัฒนภักดี” ผู้ครองอาณาจักรแสนล้าน แห่ง ไทยเจริญคอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป หรือ ทีซีซี กรุ๊ป กำลังเดินเกมสู่ธุรกิจโรงพยาบาล ต่อยอดจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจในเครือ นอกเหนือจาก ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจอุตสาหกรรมและการค้า ธุรกิจประกันและการเงิน ธุรกิจเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร
ล่าสุดกับกระแสข่าว การเข้าซื้อทีมแพทย์ “โรงพยาบาลมหาชัย” โรงพยาบาลขนาด 216 เตียง ถือเป็นโรงพยาบาลเอกชนแห่งแรกของจังหวัดสมุทรสาคร จดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชน เมื่อ 24 เม.ย.2538
ยังไม่สิ้นกระแสข่าว บริษัท โรงพยาบาลมหาชัย จำกัด (มหาชน) ก็แจ้งตลาดหลักทรัพย์ถึงการผุด “โปรเจคยักษ์” มูลค่าสูงถึง “1.5 หมื่นล้านบาท” ซึ่งเป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด)บริษัทเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ให้เข้าทำรายการลงทุนในโครงการโรงพยาบาลแห่งใหม่ ขนาด 550 เตียงในกรุงเทพฯ มูลค่าโครงการกกว่า1.5 หมื่นล้านบาท โดยจะลงทุนผ่าน "บริษัท ทีพีพี เฮลท์แคร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด"
ในเรื่องนี้แหล่งข่าวจากแวดวงโรงพยาบาล ประเมินว่า โรงพยาบาลเอกชน 550 เตียง ถือเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ แทบจะไม่เคยมีการลงทุนในไทย เว้นแต่โรงพยาบาลรัฐ ที่แม้แต่โรงพยาบาลใต้อาณัติ บมจ.ดุสิตเวชการ หรือ BDMS เครือโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในไทย ประกอบด้วย โรงพยาบาลสมิติเวช โรงพยาบาลบีเอ็นเอช กลุ่มโรงพยาบาลพญาไท กลุ่มโรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล และกลุ่มโรงพยาบาลรอยัล หากแยกเป็นโครงการเดี่ยวๆ ก็ยังมีจำนวนเตียงไม่ถึง 550 เตียง เว้นแต่รวมทุกแคมปัส ศูนย์หัวใจ มะเร็งฯ
คำถามที่ตามมาคือ โรงพยาบาลขนาดกลางแห่งนี้ เหตุใดจึงมีความสามารถในการลงทุนโรงพยาบาลขนาดใหญ่ได้ หรือมี “ทุนใหญ่” สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง กันแน่ !
พลิกงบการเงิน บมจ.โรงพยาบาลมหาชัย พบว่า สินทรัพย์รวมบริษัท ณ 31 มี.ค.60 อยู่ที่ 3,153.22 ล้านบาท มีหนี้สินรวม 1,700.26 ล้านบาท มีรายได้รวม 529.50 ล้านบาท กำไรสุทธิ 14.49 ล้านบาท ขณะที่ปี 2559 มีรายได้รวม 2,180.30 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 173.09 ล้านบาท ทำให้ความกังขาเพิ่มขึ้นอีกระดับ
เมื่อเจาะลึกการพัฒนาโครงการดังกล่าว บนเนื้อที่ 6ไร่เศษ ถนนพระราม 4 บริเวณชุมชนเทพประทาน(คลองเตย) เป็นการ “เช่าช่วงที่ดิน” ระยะ30 ปี มูลค่าประมาณ3,000ล้านบาท ผู้พัฒนาจะไม่ยอมระบุว่า เช่าที่ดินต่อจากใคร โดยให้เหตุผลเพียงว่า..ผู้ให้เช่าช่วงและเจ้าของที่ดิน มีข้อผูกพันต้องเก็บรักษาข้อมูลเป็น “ความลับ” แต่ทราบกันดีว่าที่ดินชุมชนบริเวณชุมชนเทพประทาน 35 ไร่ (ใกล้บริเวณตลาดหลักทรัพย์เดิม) ของบริษัท เกษมทรัพย์สิริ จำกัด เป็นของเจ้าสัวเจริญ ซึ่งเป็นผู้ชนะการประมูลเช่าที่ดินจากสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ระยะ 30 ปี
ผนวกกับกระแสข่าวเจ้าสัวลุยธุรกิจโรงพยาบาล ช่างลงตัว !
จากการสืบค้นข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท ทีพีพี เฮลท์แคร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ก่อตั้งเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2560 มีทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท
ข้อมูลที่แจ้งตลาดหลักทรัพย์หลักทรัพย์ ยังระบุว่า ตามแผนบริษัทดังกล่าวจะต้องดำเนินการเพิ่มทุนเป็น 2,500 ล้านบาทให้แล้วเสร็จในปลายปีนี้ และภายในปีนี้ บมจ.โรงพยาบาลมหาชัยจะถือหุ้นในพีพีทีฯ สัดส่วน 99.99% โดยปัจจุบันจำนวนหุ้นทีพีพีฯจำนวน 5 ล้านหุ้น ประกอบด้วย
- ผู้ถือหุ้นทั้งสิ้น 59 ราย ผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือ บมจ.โรงพยาบาลมหาชัย จำนวน 2.1 ล้านหุ้น
- บริษัท ทีพีพี โฮลดิ้ง จำกัด 1.25 ล้านหุ้น นายสุชาติ นพ.วรนันท์ ศรีวัฒนา 7.062 แสนหุ้น
- นักธุรกิจตระกูลเอี่ยมชีรางกูร 1.74 แสนหุ้น นายสุชาติ ประดิษฐยนต์ 1 แสนหุ้น ศ.นพ.สิน อนุราษฎร์ 8 หมื่นหุ้น นักธุรกิจตระกูลศรีวัฒนางกูร 4 ราย รวม 8 หมื่นหุ้น นพ.พงษ์พัฒน์ ปธานวนิช 7.4 หมื่นหุ้น นายแพทย์นพ.ยงยุทธ คงธนารัตน์ แห่งโรงพยาบาลเจ้าพระยา 7.26 หมื่นหุ้น
เมื่อเพิ่มทุน จะทยอยลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเพื่อเปิดทางให้“กลุ่มทุนใหม่” เข้ามาถือหุ้น โดยสุดท้ายกลุ่มกรรมการและผู้บริหารของบริษัทจะถือหุ้นเหลือ 10%, กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และพันธมิตร ถือหุ้น 25% ผู้ร่วมทุนรายอื่น ถือหุ้น 23% และบริษัทจะมีสัดส่วนการถือหุ้นในทีพีพีฯลดเหลือ 42% ของหุ้นทั้งหมด
ต้องจับตา “ผู้ร่วมทุนรายอื่น” จะเป็นใคร?
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือการให้รายละเอียดที่แจ้งตลาดฯ ระบุว่า หลังการก่อสร้างอาคารเสร็จสิ้น เป็นระยะเวลา 4 ปี เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน มีสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของอาคารและส่วนต่อเนื่องทันที ตีความว่า โครงการจะตกเป็นของเจ้าสัวเจริญในฐานะเจ้าของที่ดินที่ปล่อยเช่าต่อจากสำนักงานทรัพย์สินฯหรือไม่? แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเจรจากับเจ้าของที่ดินที่เช่าช่วง
ในประเด็นดังกล่าว สอบถามไปยังผู้บริหารของเครือทีซีซี กรุ๊ป ถึงความสนใจของเจ้าสัวเจริญในการรุกธุรกิจโรงพยาบาล ได้รับคำตอบว่า “ตอนนี้เจ้าสัวยังไม่มีแผนพัฒนาและขยายธุรกิจดังกล่าว เพราะกิจการที่อยู่ระหว่างลงทุนอยู่ก็มีมากมายแล้ว”
ทว่า การที่มีบริษัทโรงพยาบาลซึ่งมีผลประกอบการไม่มากนัก มาพัฒนาโครงการใหญ่ บนที่ดินของเจ้าสัวเจริญ ในเชิงสามัญสำนึก ก็เป็นคำตอบอยู่แล้วในที เขาเผย
อย่างไรก็ตาม จากรายละเอียดเบื้องต้นที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ คงต้องจับตาดูการลดสัดส่วนการถือหุ้นในพีทีทีฯ เพราะในมิติการลงทุน หากเข้าไปถือหุ้นใหญ่ในภายหลัง ก็จะเป็นลักษณะคล้ายกับการ “ซื้อและควบรวมกิจการ” (Mergers and acquisitions) แบบทั่วไป และจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
“การที่โรงพยาบาลเล็กๆมาเช่าที่เจ้าสัว คอมมอนเซนส์ก็ตอบคำถามแล้ว และหากเจ้าสัวมาทำธุรกิจโรงพยาบาล ท่านอาจเห็นแววธุรกิจนี้” แหล่งข่าวคนเดิม กล่าว
ขณะที่แหล่งข่าวจาก บมจ.โรงพยาบาลมหาชัย ปฏิเสธว่า เจ้าสัวเจริญ ยังไม่ได้เข้ามาถือหุ้น ซื้อกิจการหรือมีเอี่ยวกับโรงพยาบาลมหาชัย แต่อย่างใด
“ทางบริษัทเพียงแต่เช่าที่ดินท่าน(เจริญ)เพื่อพัฒนาโรงพยาบาลเท่านั้น” ที่ยังไม่แถลงถึงรายละเอียดโครงการ เพราะ “โครงการยังเป็นวุ้นอยู่เลย และคงต้องรอให้เจ้าของที่เป็นคนแถลง”
อย่างไรก็ตาม แผนพัฒนาโครงการดังกล่าว จะเป็นการสร้างโรงพยาบาลขนาด 550 เตียง เป็นโรงพยาบาลจตุตถภูมิ(Quaternary care) หรือโรงพยาบาลที่ให้บริการทางการแพทย์ที่มีความซับซ้อน ซึ่งในไทยมีน้อย เพราะส่วนใหญ่โรงพยาบาลให้การรักษาประเภทปฐมภูมิและทุติยภูมิเป็นหลัก
ด้านกลุ่มผู้ป่วยเป้าหมายของโรงพยาบาล จะเป็นทั้งชาวไทยและต่างชาติระดับ “กลางบน” จนถึง “ระดับบน” หรือ Upper-Middle Class to Upper Class
แหล่งข่าวธุรกิจโรงพยาบาล ยังเผยว่า อย่างไรก็ตาม การรุกธุรกิจโรงพยาบาลไม่ง่าย นอกจากทุนหนา “องค์ความรู้” ถือว่าสำคัญสุด ตามด้วย “ฐานผู้ป่วย” โดยเฉพาะ “ผู้ป่วยนอก”หรือ Out-patient-department:OPD ที่จะต่อยอดเป็น “ผู้ป่วยใน” หรือ In-patient-department:IPD เพราะกว่าจะสร้างฐานคนไข้ได้ 100-200 คนต่อปี ใช้เวลานาน อีกทั้งการดูแลคนไข้ที่เข้ามาเป็นผู้ป่วยใน(Admit)ต้องทำอะไรบ้าง รวมถึงการสร้างแบรนด์โรงพยาบาลให้เกิดความเชื่อมั่นในผู้ป่วย ก็ต้องกินเวลาไม่ต่ำกว่า 10 ปีขึ้นไป
แม้เจ้าสัวเจริญมักจะใช้ “ทางลัด” ซื้อทุกอย่างยกยวงเพื่อรบกับคู่แข่ง “ถ้าจะเปิดโรงพยาบาลแล้วซื้อทั้งหมด ต้องใช้มหาศาล” กุญแจสำคัญอยู่ตรงที่ต้นทุนการรักษาผู้ป่วยไอพีดี
“เรื่องเงินทุนก็มีส่วนในการซื้อเครื่องมือ นวัตกรรม และเทคโนโลยีทางการแพทย์ แต่ก็ต้องมีเรื่องบุคลากรทางการแพทย์ พยาบาล บุลคลากรช่วยเหลือ การทดลองศึกษา วิจัยโรคและนวัตกรรมการรักษาต่างๆ ต้องมาครบลูบ ซึ่งต้องใช้เวลากว่าจะได้”
นอกจากนี้ การบริหารโรงพยาบาล 200-300 เตียง ว่ายากแล้ว หากขึ้นถึง 300-400 เตียง หรือกระทั่ง 500 เตียง การบริหารยิ่งยากมาก! ทั้งด้านเครื่องมือเครื่องใช้ บุคลากรที่มาสนับสนุนให้โรงพยาบาลยืนหยัดอยู่ได้ในแต่ละปีถือว่ายากมาก การเปิดแค่ 150 เตียงแรกเริ่ม ก็ยากไม่แพ้กัน เพราะการจะหาฐานคนไข้มารองรับ และขยายกิจการต่อ ไม่ง่าย!
นอกจากนี้ แหล่งข่าวในวงการธุรกิจ ให้ข้อมูลว่าโรงพยาบาลมหาชัยมีทุนสำคัญที่คอยหนุนคือ “นายแพทย์ พงษ์ศักดิ์ วิทยากร” ซึ่งในอดีตเป็นหนึ่งในแม่ทัพเครือ BDMS
ข้อมูลลักษณะธุรกิจ และ ตัวเลขทางการเงิน หุ้น M-CHAI
ขอบคุณข้อมูล : กรุงเทพธุรกิจBizweek, SET, StockRadars