#แนวคิดด้านการลงทุน

จิม โรเจอร์ เตือน ระวังฟองสบู่ตลาดหุ้น... !

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
321 views

เมื่อเดือนที่ผ่านมา จิม โรเจอร์ นักลงทุนชื่อดังได้มีโอกาสออกรายการ "The Bottom Line." ของ Business Insider ที่มีพิธีกรอย่าง Henry Blodget

 

จิม โรเจอร์ บอกว่า อย่าลงทุนในสิ่งที่คุณอยากให้มันเป็นไป แต่จงลงทุนในสิ่งที่โลกกำลังดำเนินไป
(ที่มาภาพ : Business Insider)

สาระสำคัญ :


1. จิม โรเจอร์คาดการว่า เราจะเห็นตลาดหุ้นอเมริการ่วงลงมาอย่างแรงในอีกไม่กี่ปีนี้
2. ฟองสบู่ตลาดหุ้นจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งจะเป็นเหตุการณ์ใหม่ๆที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน

 

Blodget: สวัสดีครับคุณโรเจอร์ เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่คุณกลับมาร่วมรายการของเราอีกครั้ง ผมรู้สึกนับถือคุณอย่างมาก เพราะเวลาคุณพูด คุณจะไม่พูดว่าพวกเราควรทำอะไร แต่คุณจะชี้ให้เห็นว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นและคุณกำลังทำอะไรอยู่ และครั้งนี้เราจะมาพูดถึงตลาดหุ้นเป็นส่วนใหญ่ คุณมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างครับ

 

Rogers: ตอนที่ผมยังเป็นนักลงทุนหน้าใหม่ ผมเรียนรู้มาว่า การลงทุนที่ดีไม่ได้หมายถึงเราจะต้องลงทุนในสิ่งที่เราต้องการให้มันเป็นไป แต่ผมเลือกลงทุนในสิ่งที่โลกกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปต่างหาก.. เอาละครับ เรามาพูดถึงเรื่องตลาดหุ้นในสิ่งที่คุณถามดีกว่า ผมมองว่าหุ้นบางตัวของอเมริกากลายเป็นฟองสบู่ไปแล้ว และแน่นอนว่ามันยังมีอีกหลายฟองจะต้องเกิดขึ้นแน่นอน ไม่ช้าก็เร็วมันจะต้องแตกออก และคุณควรจะระมัดระวังกับมันให้ดี แต่ก็นะ เฮนรี่ ! มันเป็นโอกาสสำหรับคุณแล้ว เพราะเมื่อตลาดหุ้นเป็นฟองสบู่จริงๆ นักลงทุนจะต้องเปิดช่องทีวีว่าทำไมมันถึงแตก และพวกเขาจะปกป้องตัวเองได้อย่างไร งานของคุณมีความปลอดภัย คุณนี้โชคดีจริงๆ (หัวเราะ)

 

Blodget: (หัวเราะ) จริงเหรอครับ เรตติ้งของช่องทีวีดูเหมือนว่ามันจะย่ำแย่ลงเรื่อยๆนะเท่าที่ผมทราบ แต่ก็นะการตกลงอย่างหนักของตลาดหุ้นทำให้นักลงทุนจำนวนมากต้องออกจากตลาดไป ไม่มีใครอยากให้เป็นแบบนั้นหรอกครับ แล้วยังไงต่อเกี่ยวกับความคิดของคุณ

 

Rogers: ผมคิดว่าน่าจะเกิดภายในปีหน้า หรือสองปีข้างหน้า

 

Blodget: เร็วขนาดนั้นเลยเหรอครับ ?

 

Rogers: ใช่ ใช่แล้วครับ! จดมันลงไปด้วยละ ...

 

Blodget: อะไรคือสาเหตุให้เป็นเช่นนั้นเหรอครับ ?

 

จิม โรเจอร์ บอกว่า ฟองสบุ่ตลาดหุ้นน่าจะแตกเร็วๆนี้
(ที่มาภาพ : Business Insider)

 

Rogers: อืมมมม เป็นคำถามที่น่าสนใจนะ ผมเชื่อว่าประวัติศาสตร์จะเกิดขึ้นซ้ำรอยเสมอ แต่เหตุผลนั้นยากแก่การเดาว่าเพราะอะไร ในปี 2007 ประเทศไอซ์แลนด์ฟองสบู่ตลาดหุ้นแตก มีคนจำนวนมากคิดว่าไอซ์แลนด์ เหรอ ? ประเทศนี้มีตลาดหุ้นให้ซื้อขายกันด้วยเหรอ? ต่อมาก็มีโบรคชื่อดังอย่าง Bear Stearns และ Lehman Brothers ประกาศล้มละลาย เหตุการณ์เหล่านี้มีใครคิดได้ก่อนไหมครับ ไม่มีเลย! แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ มันจะแตกในขณะที่พวกเราไม่รู้ตัวหรือไม่ได้ใส่ใจมันเลย

 

เอาจริงๆ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน มันอาจจะเป็นเรื่องกองทุนเกษียณอายุของชาวอเมริกากำลังจะพัง หรือธุรกิจการเงินชื่อดังที่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลอาจจะประกาศล้มละลาย ก็อย่างที่คุณทราบ เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจในแต่ละวันเกิดขึ้นมากมาย มีอีกมากที่เราไม่ได้สนใจ หรือไม่รู้เรื่องอะไรเลย บางทีมันอาจจะเป็นเรื่องของสงครามก็ได้ มันอาจจะไม่ใช่สงครามที่สาดอาวุธใส่กัน ถ้าคุณได้ดูรายการนี้ทางช่อง Business Insider แล้วเห็นว่า เออ มันน่าสนใจมาก แต่ผมไม่รู้ว่าบริษัทไหนจะล้มละลาย และถ้าคุณรู้ ก้ส่งอีเมล์มาหาผมด้วยละ ผมจะได้เริ่มเข้าสอดส่องบริษัทนั้นๆ (หัวเราะ)

 

Blodget: คุณคิดว่าฟองสบู่รอบนี้จะมีความรุนแรงขนาดไหนเหรอครับ

 

Rogers: มันอาจจะเลวร้ายที่สุดในชีวิตคุณเลยละ

 

Blodget: แต่ในชีวิตผมก็เคยผ่านเรื่องแย่ๆในชีวิตมาไม่น้อยเลยนะ

 

Rogers: ใช่ๆ มันจะกลับมาแย่อีกครั้ง แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่คุณจำเป็นจะต้องไปเครียดอะไรมากขนาดนั้น

ที่จริงอเมริกาเป็นประเทศที่มีปัญหาทางด้านการเงินมาตลอด แต่มันก็ผ่านมาได้หลายครั้ง เท่าที่ผมจำได้มันน่าจะเกิดทุกๆ 4 ปี หรือ 7 ปี แต่นี้ก็ผ่านมา 8 ปีแล้วนะถ้านับจากครั้งล่าสุด

 

ผมคิดว่าปัญหาครั้งนี้จะยาวนานและยืดเยื้ออยู่พอสมควร เท่าที่พวกเรารู้ปัญหาด้านหนี้ มันเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2008 แต่ตอนนี้หนี้ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข ก็เหมือนกับระเบิดที่รอวันระเบิดนั้นละ เพียงแต่ยังไม่รู้ว่าเมื่อไร

 

ในปี 2008 ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีการออมเงินเยอะที่สุดท่ามกลางความเหลวร้ายของโลกฝั่งตะวันตก แต่ตอนนี้ประเทศจีนเริ่มหันมาใช้จ่ายเงินมากขึ้น ตอนนี้ประเทศจีนก็มีหนี้สินอยู่ และดูเหมือนว่ามันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

 

ผมคิดว่ามันจะรุนแรงเลยทีเดียวละ

 

Blodget: โอ้ว! ผมรู้สึกเริ่มกังวลซะแล้วสิ !

 

Rogers: ดีแล้วละครับ ...

 

Blodget: มีใครที่พอจะเข้ามาช่วยเหลืออะไรได้บ้างไหมครับ

 

Rogers: ตอนนี้ก็มีคนเก่งๆมากมายที่พยายามแก้ไขอยู่นะ แต่ก็นั้นละเท่าที่รู้ พวกเขาก็ทำอะไรมากไม่ได้ ทำได้มากสุดก็คือ ขึ้นดอกเบี้ย และอาจจะขึ้นอีกในอนาคต แต่เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มเหลวร้ายลง คนจำนวนมากจะออกมาป่าวประกาศว่า "รัฐบาลช่วยด้วย ธนาคารกลางช่วยด้วย ดินแดนศิวิไลซ์แห่งโลกตะวันตกกำลังล่มสลาย" และแน่นอน ธนาคารกลางที่พวกเรากำลังเรียกหาซึ่งเป็นต้นเหตุของสาเหตุทั้งหมดจะบอกว่า "นี้ไง! พวกเรากำลังแก้ไขอยู่" แต่มันก็ไม่ได้ดีขึ้นหรอก

 

Blodget: ตอนนี้พวกเรากำลังอยู่ในสถานการณ์ของความเป็นไปได้ที่ดินแดนศิวิไลซ์แห่งโลกตะวันตกกำลังล่มสลาย ในขณะที่ตลาดหุ้นกำลังวิ่งขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เรื่อยๆ

 

Rogers: ใช่! และนั้นเป็นสาเหตุว่าทำไมผมถึงไปตั้งถิ่นฐานอยู่ที่เอเชีย และส่งเสริมให้ลูกๆของผมพูดภาษาจีนกลาง เพราะเทรนมันกำลังจะมา

 

Dow Jones ขึ้นท่ามกลางความกังวลกับนโยบายที่ค่อนข้าง Aggressive ของ Donald Trump


-----------------------------------------------

ที่มา : The worst crash in our lifetime is coming


แปลโดย SiTh LoRd PaCk


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง